ทำไมต้องต่อโดเมนก่อนโดเมนเว็บไซต์หมดอายุ

Date : 11/07/2019

ถ้าหากคุณไม่ต่ออายุเว็บไซต์ภายใน 30 วัน โดเมนของคุณจะหลุดออกจากนายทะเบียน ซึ่งคุณจะไม่สามารถเข้าเว็บไซต์ของคุณได้อีกเลย

สิ่งที่เราต้องรู้ในการมีเว็บไซต์ ซึ่งถ้าหากจดโดเมนเนมเป็นของตัวเองโดยใช้ .COM, .NET และโดเมนอื่น ๆ ตามที่คุณต้องการ โดเมนที่ได้ทำการจดโดเมนไปนั้นจะมีอายุต่อปีหรือ 365 วันเท่านั้น ดังนั้นเจ้าของเว็บไซต์หรือผู้ที่ดูเว็บไซต์สามารถเช็กวันหมดอายุของโดเมนตัวเองได้

หากคุณไม่ต่ออายุเว็บไซต์ภายใน 30 วัน โดเมนของคุณจะหลุดออกจากนายทะเบียน ซึ่งคุณจะไม่สามารถเข้าเว็บไซต์ของคุณได้อีกเลย และโดเมนเนมนี้จะสามารถใช้ได้อีกครั้งหลังจากผ่าน 80 วันไปแล้วนับตั้งแต่วันที่โดเมนเนมหมดอายุ เนื่องจากโดเมนเนมจะถูกลบออกระบบเมื่อครบ 80 วันแล้วเท่านั้น ดังนั้นการต่อโดเมนจึงควรทำก่อนที่โดเมนเนมจะหมดอายุ 30 วัน เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณสามารถใช้งานต่อไปได้ การที่เราไม่ต่ออายุโดเมนเนมอาจทำให้เราต้องสร้างเว็บไซต์ใหม่ นำเอกสารไปจดโดเมนเนมใหม่ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควร เมื่อโดเมนเนมหมดอายุนอกจากเว็บไซต์จะหยุดทำงานแล้ว Google Analytics และ Google หรือ SEO จะลบข้อมูลบนเว็บไซต์ของเราออกจากการค้นหานี่เป็นสิ่งที่ไม่ดียิ่งนัก เพราะว่าข้อมูลที่อยู่บนเว็บไซต์ของเราจะติดอยู่ในการค้นหานั้นต้องใช้ระยะเวลาและการตรวจสอบจากทาง Google ด้วย ซึ่งไม่คุ้มค่าและเสียเวลามาก ๆ

อย่างไรก็ตามถ้าหากถามว่าในกรณีลืมต่อโดเมน หลังจากที่โดเมนเนมหมดอายุจะยังสามารถต่อโดเมนได้หรือไม่ สามารถทำได้นะคะก่อนที่โดเมนเนมของคุณจะถูกลบ ซึ่งคุณอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายที่แพงจากเดิม

ทั้งนี้ถ้าหากเราไม่รู้ว่าโดเมนของเราจะหมดอายุเมื่อไรสามารถเช็กได้กับผู้ให้บริการจดโดเมน หรือเช็ก Email อย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากผู้ให้บริการจดโดเมนมักจะส่ง Email แจ้งเตือนให้เราได้ทราบก่อนที่โดเมนเนมของเราจะหมดอายุ ดังนั้นอย่าลืมตรวจสอบวันหมดอายุโของดเมนเนมและทำการต่อโดเมนด้วยนะ

คำภาษาไทยที่เกี่ยวข้อง
จดโดเมน, รับจดโดเมน, จดทะเบียน SSL, เว็บโฮสติง, บริการอีเมล, บริการพื้นที่บนอินเทอร์เน็ต, ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต, ศูนย์ข้อมูล, บริการให้เช่าเซิร์ฟเวอร์โคโล, บริการวางระบบอินเทอร์เน็ต, บรับรองอิเล็กทรอนิกส์
คำภาษาอังกฤษที่เกี่ยวข้อง
SSL Certificate, Web Hosting, Email Service, Internet Hosting Service, Internet Service Provider, virtual private server, VPS, Data Center, Server Colocation, public key infrastructure